หงส์ต้องใจแข็ง

หงส์ต้องใจแข็ง

ผ่านพ้นไป 4 นัดแล้วสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะหยุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกันได้เลย ที่เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด มี 12 คะแนนเต็ม รั้งตำแหน่งจ่าฝูง

นี่ขนาดแมนฯ ซิตี้ ไม่มีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางจอมทัพชาวเบลเยียม ที่ได้รับบาดเจ็บพักยาว 4-5 เดือน และเป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวกระทิง ที่เข้ารับการผ่าตัดอดคุมทีมข้างสนามถึง 2 นัด ก็ยังไม่มีใครสามารถโค่นหรือเตะตัดขา “เรือใบสีฟ้า” ให้สะดุดได้เลย

ขณะที่บรรดาผู้ท้าชิงแชมป์อย่าง “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่ไล่ตามมาติดๆ เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดแกร่งไล่อัด “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปช่วงท้ายเกม 3-1 เช่นเดียวกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฮอตอย่างต่อเนื่องไล่ถล่ม “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ไปขาดลอย 3-0 โดยทั้งคู่มี 10 คะแนน จาก 4 นัด ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” อยู่ 2 แต้ม

แม้ว่าจะเพิ่งผ่านไป 4 นัด ยังมองไม่เห็นทีมที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซันนี้ก็จริง แต่ก็เริ่มมองเค้าลางออกเล็กน้อยแล้วว่าม้าตัวไหนที่จะมีโอกาสวิ่งเข้าเส้นชัยในท้ายซีซัน

กวาดตามองบนแถวๆหัวตารางปีนี้ ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นทีมที่ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมกับสถิติชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด จาก 4 นัดแรก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีหลายคนค่อนข้างหวั่นใจ เพราะทางเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ได้โละผู้เล่นออกจากทีมชุดใหญ่

แม้ว่าจะดึงตัวใหม่อย่างโดมินิก โซโบซไล,อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโดะ และล่าสุด ไรอัน กราเวนเบิร์ช แต่หลายคนก็ยังไม่ไว้วางใจ เพราะ มีแค่แม็ค อลิสเตอร์ คนเดียวเท่านั้นที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก

ทำให้หลายฝ่ายค่อนข้างกังวล แต่หลังจากผ่านไป 4 นัด บอกได้เลยว่าตอนนี้กองกลางของลิเวอร์พูล ถือว่าค่อนข้างสอบผ่านเลยทีเดียว โดยเฉพาะ โซโบซไลที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเล่นในพรีเมียร์ลีกมานานแล้ว

นอกจากแดนกลางที่เล่นกันได้แข็งแกร่งแล้ว สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือ แนวรุกที่เรียกได้ว่าฮอตแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นดิโอโก โชตา, หลุยส์ ดิอาซ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ รวมถึงดาร์วิน นูนเญซ ที่เริ่มกลับมาฉายแสงอีกครั้ง มีเพียงคนเดียวที่ฟอร์มดร็อปลงไปเล็กน้อยคือ โคดี กักโป แต่ก็ไม่ถึงกับแย่เท่าไร

เรียกได้ว่าหากแนวรุกชุดนี้ยืนระยะอยู่จนจบฤดูกาลโดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บระหว่างทางไปก่อนละก็สามารถสู้กับ “เรือใบสีฟ้า” ได้อย่างคู่คี่สูสีจนถึงเกมนัดสุดท้ายได้อย่างแน่นอน

นอกจากไม่มีอาการบาดเจ็บแล้วอีกสิ่งที่สำคัญ ที่เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่เลือดเบียร์และลิเวอร์พูลจะต้องทำให้ได้ก็คือรั้งตัวของซาลาห์เอาไว้

เนื่องจากกองหน้าทีมชาติอียิปต์นั้นตกเป็นเป้าหมายของอัล อิตติฮัด ทีมดังจากลีกซาอุดีอาระเบียที่ต้องการได้ตัวมาร่วมก๊วนเป็นอย่างมาก โดยตอนแรกได้ยื่นข้อเสนอจำนวน 150 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,668 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัวของอดีตดาวเตะโรมา มาร่วมก๊วนให้ได้

แต่ทางลิเวอร์พูลก็ได้ปฏิเสธเงินจำนวนมหาศาลไป เพราะทางคลอปป์ยืนยันว่าต้องการให้ซาลาห์ อยู่กับทีมต่อไป และไม่มีทางจะปล่อยตัวของกองหน้าร่างเล็กออกจากทีมไป

อย่างไรก็ตาม อัล อิตติฮัด ยังไม่ยอมแพ้ที่จะคว้าตัวของกองหน้าวัย 31 ปี โดยพร้อมทุ่มเงิน 200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,800 ล้านบาท) เพื่อที่จะเอาซาลาห์มาครองให้ได้

ตอนนี้ก็ต้องลุ้นว่า ลิเวอร์พูลจะใจแข็งพอกับเงินมหาศาลจำนวนนี้ได้หรือไม่ เพราะเงินจำนวนนี้ในยุคแบบนี้มันไม่ง่ายแน่นอน แต่คลอปป์ก็ยืนยันว่าไม่ปล่อยแน่ๆ

แต่ถ้า “หงส์” อดใจไม่ไหวยอมรับข้อเสนอมหาศาลของอิตติฮัด แล้วปล่อยตัวซาลาห์ไปเล่นในลีกซาอุละก็

บอกได้เลยว่าทุกอย่างที่ “หงส์แดง” ตั้งเป้าในซีซันนี้ มันจะจบลงไปทันที เมื่อซาลาห์ก้าวออกจากถิ่นแอนฟิลด์!